มหาพรหมราชินี Mitrephora sirikitiae Weeras., Chalermglin & R.M.K.Saunders
ปรับปรุงข้อมูลล่าสุดเมื่อวันที่ 23 มี.ค. 2021 เวลา 15:30:56 น. โดย Editorial Team
จำนวนการเข้าชมหน้านี้ 1,025 views
774
มหาพรหมราชินี
ชื่อวิทยาศาสตร์: Mitrephora sirikitiae Weeras., Chalermglin & R.M.K.Saunders
ชื่อสามัญ: –
ชื่ออื่น: –
วงศ์: ANNONACEAE
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
ต้น ไม้ยืนต้นขนาดเล็ก สูง 4-6 เมตร เส้นผ่านศูนย์กลาง 5-8 เซนติเมตร เปลือกลำต้นสีน้ำตาล กิ่งอ่อนมีขนอ่อนคลุม
ใบ ใบเดี่ยว รูปใบหอก กว้าง 4-9 เซนติเมตร ยาว 11-19 เซนติเมตร ปลายแหลม โคนสอบ ขอบเรียบ ใบค่อนข้างหนา เรียบ เป็นมัน แผ่นใบสีเขียวเข้ม
ดอก ดอกเดี่ยวหรือเป็นช่อ 1-3 ดอก ออกใกล้ปลายยอด กลีบเลี้ยงรูปไข่กว้าง 3 กลีบ กลีบดอก 6 กลีบ เรียงเป็น 2 ชั้น ชั้นละ 3 กลีบ กลีบดอกชั้นนอกรูปไข่ กว้าง 4.1-5.3 เซนติเมตร โคนกว้าง ปลายเรียวแหลม กลีบบาง สีขาว มีลายเส้นเรียงตามความยาว กลีบดอกชั้นในกว้าง 3.6-4.1 เซนติเมตร ยาว 3.7-4.3 เซนติเมตร โคนสีเขียวอ่อน ปลายสีม่วงเข้ม งอขึ้นและประกบติดกันเป็นรูปกระเช้า ดอกบาน 3-5 วัน กลิ่นหอมอ่อน ๆ บานช่วงเดือนพฤษภาคม
ผล ผลกลุ่มมีผลย่อย 10-15 ผล รูปทรงกระบอกเส้นผ่านศูนย์กลาง 2.2-2.4 เซนติเมตร ยาว 5.5-8 เซนติเมตร มีขนอ่อนปกคลุมหนาแน่น
ข้อมูลทั่วไป
เป็นพืชถิ่นเดียวของประเทศไทย พบในบริเวณที่แคบของยอดเขาสูงชัน ที่ระดับความสูงจากระดับน้ำทะเล 1,100 เมตร ในเขตอำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นพรรณไม้ที่มีดอกใหญ่ที่สุดเมื่อเปรียบเทียบกับดอกของพรรณไม้ชนิดอื่น ๆ ในสกุลมหาพรหม
การปลูกเลี้ยงและการใช้ประโยชน์
การปลูกเลี้ยง
ดินร่วน ต้องการน้ำปริมาณปานกลาง แสงแดดมาก
การขยายพันธุ์
ทาบกิ่ง เพาะเมล็ด เสียบยอด
การใช้ประโยชน์
นิยมปลูกเป็นไม้ประดับ